WiFi 6E คืออะไร?
WiFi 6E ทำงานด้วยมาตรฐานเดียวกับ WiFi 6 แต่มีการเพิ่มสัญญาณ 6 GHz ในช่วงคลื่นความถี่ตั้งแต่ 5.925 GHz ถึง 7.125 GHz เข้ามา ส่งผลให้มีคลื่นความถี่เพิ่มขึ้นสูงสุด 1,200 MHz ซึ่งย่านความถี่ 6 GHz แตกต่างจากย่านความถี่ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันที่ช่องสัญญาณถูกอัดแน่นอยู่ในสเปกตรัมที่จำกัด คลื่นความถี่ 6 GHz ไม่ทับซ้อนหรือมีการรบกวนจากคลื่นสัญญาณอื่น ทำให้มีปริมาณแบนด์วิธมากขึ้น สามารถรับส่งข้อมูลด้วยความเร็วที่มากขึ้น มีความหน่วงของการรับส่งข้อมูลที่ต่ำลง และยังเป็นการเปิดทรัพยากรเพื่อรองรับการใช้งานที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต เช่น ใน AR/VR การสตรีม 8K และอื่น ๆ อีกมากมาย
*WiFi 6 เป็นมาตรฐานของเทคโนโลยี Wi-Fi ที่รู้จักกันในชื่อ “AX WiFi” หรือ “802.11ax WiFi”.
 เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ WiFi 6
 
      หมายเหตุ : FCC เปิดคลื่นความถี่ 1200 MHz ในย่านความถี่ 6 GHz ซึ่งเป็นการปูทางสำหรับ Wi-Fi 6E ในสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรปได้เปิดใช้คลื่นความถี่ 480 MHz ในย่านความถี่ 6 GHz (ตั้งแต่ 5.945 GHz ถึง 6.425 GHz) เพื่อใช้งานระบบการเข้าถึงแบบไร้สาย
ทำไมถึงต้องใช้งานคลื่นความถี่ 6 GHz
-  
         รองรับอุปกรณ์ 
 ผ่าน Wi-Fi ได้มากขึ้น
-  
         รองรับการรับส่งข้อมูล 
 ที่หนาแน่นผ่าน Wi-Fi
-  
         ลดความแออัด 
 บนคลื่นความถี่เดิม
-  
         สัญญาณรบกวนจาก 
 2.4 GHz และ 5 GHzลดการรบกวนเครือข่าย 
 จากสัญญาณ Wi-Fi บริเวณรอบข้าง
การนำ WiFi 6E มาอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน
WiFi 6E ใช้ความสามารถของคลื่น 6 GHz เพื่อใช้งานแบนด์วิธสูงที่ต้องการการรับส่งข้อมูลที่รวดเร็ว เช่น การสตรีมวิดีโอความละเอียดสูงและ เทคโนโลยีโลกเสมือน ตลอดจนการเชื่อมต่อที่ต้องการความหน่วงของสัญญาณต่ำ เช่น การเล่นเกมออนไลน์
-  
        คลื่นความถี่มากขึ้น, 
 ความหน่วงต่ำลง
-  
        ช่องสัญญาณกว้างขึ้น, 
 รองรับการใช้งานมากขึ้น
-  
        ไม่มีความแออัด, 
 ไร้สัญญาณรบกวน
-  
        การสตรีมวิดีโอความละเอียดสูง 8K 
-  
        เล่นเกมออนไลน์แบบไม่มีสะดุด 
-  
        เข้าใช้งานโลกเสมือนจริง VR/AR 
WiFi 6E เพื่อประสบการณ์ที่แตกต่าง
-  สัญญาณคมชัดและปราศจากความแออัดย่านความถี่ 2.4 GHz และ 5 GHz มีการใช้งานอย่างหนาแน่น แตกต่างจากย่านความถี่ 6 GHz ที่เปิดกว้าง และมีการใช้งานสำหรับการเชื่อมต่อ WiFi 6 ที่มีประสิทธิภาพเท่านั้น จึงช่วยขจัดปัญหาที่เกิดจากความแออัดบนเครือข่าย Wi-Fi ในปัจจุบัน ช่องสัญญาณบนแถบความถี่ 6 GHz ที่เพิ่งเปิดใหม่จะไม่ทับซ้อนกัน ช่วยลดความแออัดของเครือข่ายได้เป็นอย่างมาก 
-  ขนาดช่องสัญญาณที่กว้างกว่า เพื่อการใช้งานที่เร็วกว่าWiFi 6E เพิ่มช่องสัญญาณ 160 MHz จำนวน 7 ช่อง ทำให้มีแบนด์วิธสูงเป็น 2 เท่าจากเดิม รองรับการใช้งานมากขึ้น สามารถรับส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุดพร้อมกันได้มากขึ้น ให้ผู้ใช้งานเพลิดเพลินกับการชมภาพยนตร์ 8K เล่นเกม AR/VR และการดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่ พร้อมกันโดยไม่มีสะดุด 2.4 GHz: ไม่สามารถใช้งานช่องสัญญาณ 160 MHz ได้ 5 GHz: มีช่องสัญญาณ 160 MHz 2 ช่อง 6 GHz: มีช่องสัญญาณ 160 MHz 7 ช่อง หมายเหตุ : เนื่องจากข้อบังคับ สหภาพยุโรปได้เปิดใช้คลื่นความถี่ 480 MHz (3×160 MHz) ในย่านความถี่ 6 GHz สำหรับเข้าถึงการใช้งานระบบเครือข่ายแบบไร้สาย 
  - ช่องสัญญาณ 160 MHz - ให้แบนด์วิธ 2 เท่าและรองรับการใช้งานเพิ่มเป็น 2 เท่า 
เพิ่มปริมาณการใช้งานด้วยคลื่นความถี่ที่มากขึ้น
WiFi 6E ให้คลื่นความถี่ที่เพิ่มขึ้นถึง 1,200 MHz บนคลื่น Wi-Fi 6 GHz ตอบสนองความต้องการใช้งาน Wi-Fi ที่เพิ่มมากขึ้น มีช่วงของคลื่นสัญญาณที่อยู่ติดกันมากกว่า 1.2 GHz เพิ่มจำนวนเส้นทางมากขึ้นกว่า 2 เท่า เพื่อการรับส่งข้อมูลที่รวดเร็ว ช่วยลดความแออัดและรองรับการใช้งานเครือข่ายจำนวนมากพร้อมกัน
หมายเหตุ : ตามกฎระเบียบ สหภาพยุโรปได้เปิดใช้คลื่นความถี่ 480 MHz (3×160 MHz) ในย่านความถี่ 6 GHz สำหรับการติดตั้งระบบการเข้าถึงการใช้งานระบบเครือข่ายแบบไร้สาย
7 X 160 MHz =1200 MHz
WiFi 6E : ปลดล็อกศักยภาพของ WiFi 6
การเปิดย่านความถี่ 6 GHz ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของ WiFi 6 ซึ่ง WiFi 6E มีการอัปเกรดประสิทธิภาพและความจุของเครือข่ายที่มากขึ้น มีการรับส่งข้อมูลที่มีศักยภาพมากขึ้น ในขณะที่ WiFi 6 ยังไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเนื่องจากมีการรบกวนของสัญญาณของ WiFi 5 (และคลื่นวิทยุอื่น ๆ )
  - มีประสิทธิภาพมากขึ้น, 
 เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ- คลื่น 6 GHz ที่เข้มข้น 
  - รองรับการใช้งานมากขึ้น, 
 ความหน่วงสัญญาณลดลง- 6 GHz brings 160 MHz to life 
ข้อแตกต่างของ WiFi 6E กับ WiFi 4, WiFi 5 และ WiFi 6
| Wi-Fi 4 | Wi-Fi 5 | Wi-Fi 6 | Wi-Fi 6E | |
|---|---|---|---|---|
| วันเปิดตัว | 2007 | 2013 | 2019 | 2021 | 
| มาตรฐาน IEEE | 802.11n | 802.11ac | 802.11ax | |
| การรับส่งข้อมูลสูงสุด | 1.2 Gbps | 3.5 Gbps | 9.6 Gbps | |
| ย่านความถี่ | 2.4 GHz, 5 GHz | 5 GHz | 2.4 GHz, 5 GHz | 2.4 GHz, 5 GHz, 6 GHz | 
| การเข้าหรัสความปลอดภัย | WPA 2 | WPA 2 | WPA 3 | |
| ขนาดช่องสัญญาณ | 20 MHz, 40 MHz | 20 MHz, 40 MHz, 80 MHz, (2×) 160 MHz | 20 MHz, 40 MHz, 80 MHz, (7×) 160 MHz* | |
| Modulation | 64-QAM | 256-QAM | 1024-QAM | |
| MIMO | 4x4 MIMO | 4x4 MIMO, DL MU-MIMO | 8x8 MU-MIMO | |
| คุณสมบัติ | นำ MIMO มาใช้ | นำช่องสัญญาณ 160 MHz มาใช้ ย่านความถี่ 5 GHz เพื่อความเร็วสูงขึ้น | รองรับการใช้งานเพิ่มขึ้น 4 เท่า ความเร็วสูงขึ้น 1.25 เท่า ความยาวคลื่น OFDM Symbol มากขึ้น 4 เท่า ช่องสัญญาณกว้าง 160 MHz OFDMA, 8x8 MU-MIMO | ขยายคลื่นความถี่ไปที่ 6 GHz ปราศจากความแออัด, สัญญาณรบกวนต่ำ และ ความหน่วงของสัญญาณต่ำ ช่องสัญญาณ 160 MHz 7 ช่อง เพื่อการใช้งานคลื่นที่มากขึ้น* | 
*FCC เปิดคลื่นความถี่ 1200 MHz (7 × 160 MHz) ในย่านความถี่ 6 GHz ซึ่งเป็นการปูทางสำหรับ Wi-Fi 6E ในสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรปได้เปิดใช้คลื่นความถี่ 480 MHz (3 × 160 MHz) ในย่านความถี่ 6 GHz สำหรับการใช้งานระบบการเข้าถึงแบบไร้สาย




